งานก่อสร้างมีกี่ประเภท
ถ้าใครเคยเดินผ่านไซต์ก่อสร้างแล้วสงสัยว่า "เขาสร้างอะไรกันนะ?" บทความนี้มีคำตอบ! มารู้จักประเภทของ งานก่อสร้าง ที่เราเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวันกันดีกว่า

1. อาคารที่อยู่อาศัย
   เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม ฯลฯ เป็นที่ที่เราอยู่กันทุกวัน งานก่อสร้างแบบนี้จะเน้นเรื่องความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และดีไซน์ที่เหมาะกับการอยู่อาศัย
2. อาคารพาณิชย์
   เป็นอาคารที่ใช้ในการทำธุรกิจ เช่น ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงานขนาดเล็ก หรือโฮมออฟฟิศ ต้องออกแบบให้รองรับผู้คนได้เยอะ และใช้งานได้หลากหลาย
   
   
   
3. อาคารสำนักงาน หรืออาคารสูง
   อาคารที่ใช้เป็นที่ทำงาน เช่น ตึกออฟฟิศสูงๆ ใจกลางเมือง พวกนี้จะมีระบบลิฟต์ ระบบไฟ ระบบน้ำที่ซับซ้อนมากกว่าบ้านทั่วไป
   
   
   
4. อาคารสาธารณะ
   เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล หอประชุม หรือสถานีขนส่ง เป็นอาคารที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ เน้นความแข็งแรง ปลอดภัย และการรองรับผู้คนจำนวนมาก
   
   
   
5. อาคารโรงงาน หรือคลังสินค้า
   ใช้สำหรับผลิตหรือเก็บสินค้า เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือโกดังเก็บของ อาคารประเภทนี้จะมีพื้นที่กว้าง โครงสร้างแข็งแรง และบางที่อาจมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่
   
   
   งานก่อสร้างไม่ใช่แค่ "สร้างบ้าน" เท่านั้นนะ แต่ยังครอบคลุมหลายประเภท ทั้งเพื่ออยู่อาศัย ทำงาน ทำธุรกิจ หรือรองรับการใช้งานของคนจำนวนมากเลยล่ะ!
   
   

ประเภทอาคารตามวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง

1. อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforced Concrete)
   วัสดุประเภทนี้เป็นที่นิยมมากในงานก่อสร้างอาคารสูงๆ และอาคารที่ต้องการความแข็งแรงสูง เพราะเป็นการผสมระหว่างคอนกรีตที่แข็งแรงกับเหล็กเส้นที่ช่วยรับแรงดึง ทำให้อาคารมีความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนและน้ำหนักมาก ๆ เช่น อาคารสำนักงาน หรือคอนโดมิเนียม
   
2. อาคารเหล็กรูปพรรณ (Steel Structure)
   เหล็กรูปพรรณเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง เหมาะกับการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ หรืออาคารโรงงานที่ต้องการโครงสร้างกว้างๆ และสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือโกดังสินค้า
   
3. อาคารไม้ (Wooden Structure)
   ไม้เป็นวัสดุธรรมชาติที่ใช้ก่อสร้างอาคารมาตั้งแต่โบราณ เหมาะกับบ้านพักอาศัยหรืออาคารที่เน้นความสวยงามและอบอุ่น แต่ต้องดูแลเรื่องการกันปลวกและความชื้น เช่น บ้านไม้ หรือรีสอร์ตในป่า
   
   

คอนกรีตเสริมเหล็ก คืออะไร? ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้
คอนกรีตเสริมเหล็ก คือวัสดุก่อสร้างที่ประกอบด้วยคอนกรีตผสมกับเหล็กเส้น เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทนทาน เหมาะกับการสร้างอาคารสูง อาคารสำนักงาน หรือบ้านที่ต้องการความแข็งแรงพิเศษ

1. ข้อดีของคอนกรีตเสริมเหล็ก
   

   1. มีความคงทนและแข็งแรงมาก
      รับน้ำหนักได้ดีและทนทานต่อแรงกดและแรงดึงได้ดีมาก

   2. ช่วยให้ภายในอาคารเย็นสบาย
      เพราะคอนกรีตมีคุณสมบัติในการเก็บความเย็นได้ดี

   3. คุ้มค่าต่อราคา
      เมื่อเทียบกับความแข็งแรงและอายุการใช้งานถือว่าคุ้มค่า

   4. เก็บเสียงได้ดี
      ลดเสียงรบกวนจากภายนอกและภายในอาคารได้ดี

2. ข้อเสียของคอนกรีตเสริมเหล็ก
   

   1. ใช้เวลานานในการก่อสร้าง
      เพราะต้องมีขั้นตอนหลายขั้นตอน เช่น เทคอนกรีต รอแห้ง และเสริมเหล็ก

   2. ซ่อมแซมยาก
      ถ้ามีปัญหาแตกร้าวหรือเสียหาย การซ่อมแซมต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูง

   3. เสี่ยงเกิดรอยแตกร้าว
      โดยเฉพาะถ้าก่อสร้างหรือดูแลไม่ดีพอ

   4. ปรับปรุงหรือขยายอาคารยาก
      การต่อเติมอาคารที่ทำจากคอนกรีตเสริมเหล็กต้องใช้ขั้นตอนและงบประมาณมาก
      
      

เหล็กรูปพรรณ (Steel) คืออะไร? ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้

เหล็กรูปพรรณ เป็นวัสดุก่อสร้างที่ใช้กันมากในงานก่อสร้างอาคารและโรงงาน เพราะมีความแข็งแรงสูง น้ำหนักเบา และออกแบบได้หลากหลาย วันนี้เราจะมาเจาะลึกข้อดีและข้อเสียของเหล็กรูปพรรณกัน

1. ข้อดีของเหล็กรูปพรรณ

   1. ใช้เวลาก่อสร้างน้อยกว่า
      เพราะโครงสร้างเหล็กสามารถประกอบได้รวดเร็ว

   2. มีความแข็งแรงสูง
      ทนทานและรองรับน้ำหนักได้ดี

   3. ประหยัดค่าแรงงาน
      เนื่องจากการติดตั้งรวดเร็ว ใช้แรงงานน้อยลง

   4. ดีไซน์ได้หลากหลาย
      สามารถออกแบบรูปทรงและขนาดได้ตามต้องการ

2. ข้อเสียของเหล็กรูปพรรณ

   1. ต้องอาศัยช่างมีฝีมือสูง
      การประกอบและติดตั้งเหล็กต้องแม่นยำและชำนาญ

   2. ค่าวัสดุและค่าแรงก่อสร้างค่อนข้างสูง
      เหล็กมีราคาสูง และต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการติดตั้ง

ไม้ (Wood) คืออะไร? ข้อดีข้อเสียที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้ไม้ก่อสร้าง
ไม้เป็นวัสดุก่อสร้างที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในงานบ้านพักอาศัยและรีสอร์ต เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่นและใกล้ชิดธรรมชาติ มาดูข้อดีและข้อเสียของไม้กันเลย!

1. ข้อดีของไม้

   1. ถ่ายเทอากาศได้ดี
      บ้านไม้มีช่องว่างที่ช่วยให้อากาศไหลผ่านได้มากกว่า บ้านปูนทั่วไป

   2. บรรยากาศภายในบ้านไม้สดชื่นกว่า
      เพราะไม้ช่วยให้บ้านโปร่งสบายและมีความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ

   3. ความสวยงามเป็นธรรมชาติ
      ลายไม้และสีไม้ทำให้บ้านดูอบอุ่น มีเสน่ห์ไม่เหมือนวัสดุอื่น

2. ข้อเสียของไม้
   

   1. เสี่ยงถูกปลวกกัดกิน
      ปลวกและแมลงอื่น ๆ อาจทำลายไม้จนบ้านเสียหายได้ง่ายกว่า บ้านปูน

   2. ต้องดูแลรักษามากกว่า
      ต้องทาน้ำยาเคลือบกันปลวกและกันน้ำบ่อย ๆ เพื่อยืดอายุการใช้งาน

   3. อาจติดไฟง่ายกว่า
      ถ้าไม่ผ่านการป้องกันที่ดี ไม้อาจติดไฟง่ายกว่าวัสดุอื่น
      ไม้เป็นวัสดุก่อสร้างที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศอบอุ่นและธรรมชาติ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการดูแลรักษาที่มากขึ้น
      
      

สนใจเรียนคอร์สวิศวกรรมก่อสร้างและการจัดการ 
ติดต่อเพจ Eduverse จักรวาลแห่งการเรียนรู้
"แพลตฟอร์มการเรียนรู้นอกหลักสูตร" 
เรียนจบมีผลงานใส่พอร์ตฟอลิโอ และได้รับเกียรติบัตรซึ่งรับรองโดย สำนักงานพัฒนาและประเมินศักยภาพด้านวิชาชีพ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line ID: @mathiphic 
https://lin.ee/ZAkbk9z